รูปแบบจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
สามารถจัดได้อย่างหลากหลาย แต่ทุกแบบมีลักษณะร่วมกัน คือ
แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ ประมาณ 2-6 คน
โดยสมาชิกทุกคนช่วยเหลือกัน มีการฝึกฝนการทำงานกลุ่ม กระบวนการกลุ่ม
และการประเมินผลเป็นรายบุคคล
การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative
Learning) หมายถึง
กิจกรรมการเรียนการสอนที่แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ
ส่งเสริมให้นักเรียนทำงานร่วมกัน
โดยในกลุ่มประกอบด้วยสมาชิกที่มีความสามารถแตกต่างกัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
มีการช่วยเหลือพึ่งพาซึ่งกันและกัน และมีความรับผิดชอบร่วมกัน
ทั้งในส่วนตนและส่วนรวม
เพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือมีข้อดีหลายประการ อาทิ
- ช่วยพัฒนาความเชื่อมั่นของนักเรียน
- ช่วยพัฒนาความคิดของนักเรียน
- ช่วยยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
-ช่วยส่งเสริมบรรยากาศในการเรียน
- ส่งเสริมทักษะการทำงานร่วมกัน
- ทำให้นักเรียนมีวิสัยทัศน์หรือมุมมองกว้างขึ้น
-ช่วยการปรับตัวในสังคมดีขึ้น
การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
มีรูปแบบอย่างหลากหลาย ดังต่อไปนี้
1.คิดและคุยกัน(Think Pairs
Share) , เพื่อนเรียน(Partners) , ผลัดกันพูด(Say
and Switch)
ทั้ง 3
รูปแบบเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่คล้ายคลึงกัน
ให้นักเรียนจับคู่กันในการตอบคำถาม
อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสถานการณ์ หรือทำความเข้าใจเนื้อหาที่เป็นความคิดรวบยอดที่กำหนดให้
2.กิจกรรมโต๊ะกลม(Roundtable หรือ Roundrobin)
เป็นรูปแบบการสอนที่จัดกลุ่มนักเรียนที่มีจำนวนมากกว่า
2 คนขึ้นไป เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคน เขียนความคิดเห็นของตน
บอกเล่าประสบการณ์ความรู้ หรือสิ่งที่ตนกำลังศึกษาให้เพื่อนคนที่อยู่ถัดไปโดยเวียนไปทางด้านใดด้านหนึ่ง
สมาชิกทุกคนจะใช้เวลาเท่าๆกันหรือใกล้เคียง
3.คู่ตรวจสอบ(Pairs Check) , มุมสนทนา(Corners) , ร่วมกันคิด(Numbered
Heads together)
เป็นรูปแบบการสอนที่คล้ายคลึงกัน คือ
เป็นการจัดการเรียนการสอนที่แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆ ให้ช่วยกันตอบคำถาม
แก้โจทย์ปัญหา หรือทำแบบฝึกหัด เมื่อสมาชิกทุกคนในกลุ่มย่อยสามารถตอบปัญหา
หรือแก้โจทย์ได้แล้ว ให้แลกเปลี่ยนกันตรวจสอบคำตอบ โดยการจับคู่ตรวจสอบ
หรือจัดมุมสนทนา
4.การสัมภาษณ์แบบสามขั้นตอน(Three
Step Interview)
รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบนี้มี 3 ขั้นตอน โดยครูกำหนดคำถามหรือประเด็นโจทย์ปัญหาให้นักเรียนตอบ
มีหลักการดังนี้
- นักเรียนจับคู่กัน คนที่ 1 เป็นผู้สัมภาษณ์โดยถามคำถามให้คนที่ 2 เป็นผู้ตอบ
-นักเรียนสลับบทบาทกัน จากผู้ถามเป็นผู้ตอบ และจากผู้ตอบเป็นผู้ถาม
- นักเรียนในแต่ละกลุ่มย่อย ผลัดกันเล่า
สิ่งที่ตนรู้จากคู่ของตน ให้กลุ่มทราบ
5.การแข่งขันระหว่างกลุ่มด้วยเกม(Team
Games Tournament หรือ TGT) , การแบ่งกลุ่มสัมฤทธิ์(Student
Team Achievement Division หรือ STAD)
เป็นรูปแบบการสอนที่จัดกิจกรรมการเรียนการสอนคล้ายคลึงกัน
ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
การนำเสนอบทเรียน(Class
Presentation)
การจัดทีม(Team)
การแข่งขัน/การทดสอบ(TGTใช้การแข่งขัน ส่วน STADใช้การทดสอบ)
การยอมรับความสำเร็จของทีม(Team
Recognition)
6.ปริศนาความรู้(Jigsaw)
เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ทุกกลุ่มจะได้รับมอบหมายให้ทำกิจกรรมเดียวกันโดยครูผู้สอนแบ่งเนื้อหาของเรื่องที่จะเรียน
ออกเป็นหัวข้อย่อยเท่าจำนวนสมาชิกแต่ละกลุ่ม
และมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มค้นคว้าคนละหัวข้อย่อย
โดยนักเรียนแต่ละคนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง ที่ตนได้รับมอบหมายจากกลุ่ม
สมาชิกต่างกลุ่มที่ได้รับมอบหมายในหัวข้อเดียวกันจะร่วมกันศึกษา
จากนั้นแต่ละคนจะกลับเข้ากลุ่มเดิมของตน
เพื่ออธิบายหัวข้อที่ตนศึกษาให้เพื่อนร่วมกลุ่มฟัง
7.การสืบสอบเป็นกลุ่ม(Group
Investigation)
เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นบรรยากาศการทำงานร่วมกัน
เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้ ที่จะดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมประชาธิปไตยได้อย่างเหมาะสม
กล่าวคือ สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มจะเลือกหัวข้อย่อย
และเลือกวิธีการแสวงหาคำตอบในเรื่องนั้นๆด้วยตัวเอง หลังจากนั้นสมาชิกแต่ละคน
จะรายงานความก้าวหน้าและผลการทำงานให้กลุ่มตนเองทราบ
8.การเรียนรู้เป็นกลุ่มเพื่อช่วยเหลือเพื่อนเป็นรายบุคคล(Team
Assisted Individualization หรือ TAI)
เป็นการเรียนการสอนที่ผสมผสานระหว่างการจัดการเรียนแบบร่วมมือ
และการเรียนการสอนแบบรายบุคคลเข้าด้วยกัน เน้นการสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
โดยให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสามารถ ส่งเสริมความร่วมมือภายในกลุ่ม
มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
9.การเรียนรู้แบบร่วมมือผสมผสานการอ่านและการเขียน(Cooperative
Integrated Reading and Composition หรือ CIRC)
เป็นรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ที่มีองค์ประกอบน่าสนใจ ได้แก่ การสร้างกลุ่มอ่าน การจัดกลุ่มย่อย
กิจกรรมการอ่านพื้นฐาน การหาเพื่อนช่วยตรวจสอบ การทดสอบ การสอนอ่าน การสอนเขียน
เป็นต้น
รูปแบบจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
สามารถจัดได้อย่างหลากหลาย แต่ทุกแบบมีลักษณะร่วมกัน คือ
แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆประมาณ 2-6 คน
โดยสมาชิกทุกคนช่วยเหลือกัน มีการฝึกฝนการทำงานกลุ่ม กระบวนการกลุ่ม
และการประเมินผลเป็นรายบุคคล
นอกจากนี้
ยังพบว่าไม่มีรูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งสามารถใช้ได้กับบทเรียนได้ทุกลักษณะ
ในการเรียนการสอนเนื้อหาในบทหนึ่งๆ
ครูผู้สอนอาจจะต้องใช้รูปแบบมากกว่าหนึ่งรูปแบบมาผสมผสาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น